รายละเอียดที่ท่านเลือก | |
วันที่ : | 19 ก.ค. 66 |
---|---|
ถึงวันที่ : | |
สถานที่ : | ณ ห้องปิ่นเกล้า ชั้น 3 อาคาร Thai Food Heritage สถาบันอาหาร กรุงเทพฯ |
ราคาสมาชิก : | 3,200 |
ราคาบุคคลทั่วไป : | 3,400 |
จำนวนวัน : | 1 วัน |
หลักการและเหตุผล
ประเทศไทยมีปริมาณการส่งสินค้าอาหารสำเร็จรูปไปจำหน่ายยังตลาดโลกเป็นมูลค่านับแสนล้านบาทต่อปี ถึงแม้ว่าผู้ประกอบการจะพยายามพัฒนาคุณภาพของอาหารให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยมีการจัดทำระบบ GMP และระบบ HACCP ระบบการหาจุดวิกฤติในการควบคุมความปลอดภัยของอาหาร แต่ความปลอดภัยของอาหารเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะผลิตอาหารสำเร็จรูปไปจำหน่ายได้ต้องมีการเลือกใช้ภาชนะบรรจุที่เหมาะสม ดังนั้นภาชนะบรรจุอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญในการผลิตอาหารสำเร็จรูป เพราะนอกจากจะป้องกันอาหารที่บรรจุไม่ให้เสื่อมสภาพ ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของภาชนะที่ใช้บรรจุอาหารอีกด้วย เนื่องจากเมื่อบรรจุอาหารในภาชนะบรรจุอาหารจะมีการทำปฏิกิริยาเกิดขึ้นเป็นผลให้มีสารที่เป็นส่วนประกอบของภาชนะบรรจุอาหารเคลื่อนย้ายลงมาสู่อาหารที่บรรจุ โดยเฉพาะภาชนะบรรจุอาหารประเภทพลาสติกเพราะในกระบวนการผลิตภาชนะพลาสติกต้องมีสารเจือปนต่างๆ และสารที่ช่วยในการผลิตต่างๆ เช่น พลาสติไซเซอร์ สเตบิไลเซอร์ สารป้องกันยูวี เป็นต้น ซึ่งสารเหล่านี้สามารถจะแพร่กระจายลงสู่อาหารได้ ดังนั้นในแต่ละประเทศจึงมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารโดยเฉพาะสหภาพยุโรปให้ความสำคัญและเข้มงวดกับการใช้ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหาร หรือเรียกว่าวัสดุหรือสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหาร (Food Contact Materials) มากและมีการตรวจสอบหาข้อมูลของสารที่เคลื่อนย้ายจากพลาสติกลงมาสู่อาหารอยู่อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรมีความรู้ความเข้าใจในการนำวัสดุสัมผัสอาหารไปใช้งานให้ถูกต้องตามกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ของนานาชาติ เช่น ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ประเทศญี่ปุ่น
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในการนำวัสดุที่ใช้สัมผัสอาหารไปใช้อย่างถูกวิธี ปรับตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและมีการบริหารจัดการผลิตสินค้าอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความปลอดภัยตามมาตรฐานและกฎระเบียบใหม่ๆ ลดต้นทุน ด้านความปลอดภัยของวัสดุที่สัมผัสอาหารเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าของอาหารไทยในตลาดโลก
วิทยากร
อ.สุมาลี ทั่งพิทยกุล อดีตรองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ และวิทยากรประจำสถาบันอาหาร
คุณสมบัติผู้เข้าอบรม
ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลการใช้บรรจุภัณฑ์ ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายผลิต ฝ่ายควบคุมคุณภาพ และผู้สนใจทั่วไป
ระยะเวลาในการอบรม
วันพุธที่ 19 กรกฎาคม 2566 (1 วัน)
เวลา 09.00-16.00 น.
สถานที่จัดฝึกอบรม
ณ ห้องปิ่นเกล้า ชั้น 3 อาคาร Thai Food Heritage สถาบันอาหาร กรุงเทพฯ
กำหนดการ
08.30 – 09.00 น. |
ลงทะเบียนพร้อมรับเอกสาร |
09.00 – 10.30 น. |
กฎระเบียบ และมาตรฐานของบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศไทย |
10.30 – 10.45 น. |
พักรับประทานอาหารว่าง |
10.45 – 12.00 น. |
กฎระเบียบ และมาตรฐานของบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศญี่ปุ่น |
12.00 - 13.00 น. |
พักรับประทานอาหารกลางวัน |
13.00 – 15.00 น. |
กฎระเบียบ และมาตรฐานของบรรจุภัณฑ์อาหารในสหภาพยุโรป |
15.00 – 15.15 น. |
พักรับประทานอาหารว่าง |
15.15 – 16.00 น. |
กฎระเบียบ และมาตรฐานของบรรจุภัณฑ์อาหารในสหภาพยุโรป (ต่อ) |
16.00 – 16.30 น. |
ตอบข้อซักถาม และปิดการอบรม |
หมายเหตุ กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
ค่าลงทะเบียน (ยังไม่รวม VAT 7%) (ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%)
สมาชิก NFI 3,200 บาท
บุคคลทั่วไป 3,400 บาท
(ราคารวม VAT 7% สมาชิก NFI 3,424 บาท / บุคคลทั่วไป 3,638 บาท)
วิธีการชำระเงิน
โอนเงินเข้าบัญชี ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพระปิ่นเกล้า เลขที่ 031-1-52938-0 ชื่อบัญชี อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิเพื่อสถาบันอาหาร ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ |
ขั้นตอนการลงทะเบียน
1. หลังจากลงทะเบียนแล้ว ทาง จนท. จะส่ง E-mail ยืนยันการเข้าร่วมอบรมไปยังท่านก่อนการอบรม 1-2 อาทิตย์
2. การชำระเงิน ท่านสามารถชำระเงินพร้อมส่งหลักฐานการชำระเงิน มายังฝ่ายฝึกอบรมฯ ได้ที่ training@nfi.or.th หรือ Line@ : https://bit.ly/393y0Xe
3. หลังจากท่านชำระเงินแล้ว
>> ท่านสามารถลงทะเบียนตามวัน, เวลา และสถานที่ ที่กำหนดได้นะคะ โดยเริ่มลงทะเบียน 08.30-09.00 น. พร้อมรับใบเสร็จรับเงิน
สนใจติดต่อ
คุณธราธิป แววศรี
ฝ่ายฝึกอบรมและที่ปรึกษา สถาบันอาหาร
โทร. 0-2422-8688 ต่อ 2207
E-mail : training@nfi.or.th
Facebook : www.facebook.com/trainingNFI
Line@ : https://bit.ly/393y0Xe
*** กรณีมีการยกเลิกหรือเลื่อนการอบรม จะแจ้งล่วงหน้าก่อนการฝึกอบรม 1 อาทิตย์ หากมีการจองตั๋วรถ/เครื่องบิน ทางสถาบันฯ ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกกรณี